การเขียนภาษามลายู
1) ภาษามลายูเขียนได้ 2 แบบ เขียนด้วยอักษรอาหรับเรียกว่าภาษามลายูเขียนด้วยอักษรยาวี (BahasaMelayu Tulisan Jawi) เป็นที่นิยมใช้กันในภาคใต้ของไทย ภาคเหนือของมาเลเซีย บรูไน เป็นต้น
การท่องพยัญชนะ
2) เขียนด้วยอักษรโรมัน เรียกว่า ภาษามลายูเขียนด้วยอักษรรูมีหรืออักษรโรมัน (Bahasa Melayu Tulisan Rumi) ซึ่งเป็นการเขียนที่รัฐบาลมาเลเซียและ อินโดนีเซียใช้เป็นทางการ ทางการของประเทศมาเลเซียเรียกว่า Bahasa Melayu และทาง อินโดนีเซียเรียกว่า Bahasa Indonesia ภาษามลายูอักษรรูมีหรืออักษรโรมัน ที่ใช้มีตัวอักษรตั้งแต่ ABC ถึง XYZ เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษการเทียบอักษรไทยก็เช่นเดียวกับอังกฤษเทียบไทย นอกจากมี ไม่กี่อักษรเท่านั้นที่เพี้ยนไปบ้าง คือ
C P TG H N Y S Y C = จ (ภาษามลายู ไม่มีอักษรที่ออกเสียงเป็น ฉ ช ฌ)
P = ป (ภาษามลายู ไม่มีอักษรที่ออกเสียงเป็น พ ผ ภ)
T = ต (ภาษามลายู ไม่มีอักษรที่ออกเสียงเป็น ท ถ ธ ฐ)
NY ใช้ ญ แทน อักษรนี้ไม่มีอักษรไทยพอที่จะเทียบได้ แต่จะคล้ายกับ ญ ตามส าเนียงภาษาไทย
GH ใช้ ฆ แทน อักษรนี้ไม่มีอักษรไทยที่พอจะเทียบได้
KH ใช้ ค แทน อักษรนี้ไม่มีอักษรไทยใช้เทียบได้
SY ใช้ ช แทน เทียบกับภาษาอังกฤษ SH
สระภาษามลายู มี A E I O U เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษ ซึ่งมีเสียงดังนี้
A = -ะ,-า
E = เ-ะ,เ-,เ-อะ (หรือ- ื) เ-อ (หรือ- ือ)
I = ิ, - ี
O = โ-ะ,โ-,เ-าะ, -อ
U = - ุ, - ู,
อักษรและเสียง
1) หนึ่งอักษรเท่ากับหนึ่งเสียง
ตัวอักษร
|
คำอ่าน
|
อักษรเทียบเคียงในภาษาไทย
|
A
|
เอ
|
สระ อา /สระ อะ / อา
|
B
|
บี
|
บ
|
C
|
ซี
|
จ
|
D
|
ดี
|
ด
|
E
|
อี
|
สระ เออ / สระ เอ / เออ / เอ
|
F
|
เอฟ
|
ฟ
|
G
|
จี
|
ฆ
|
H
|
เฮช
|
ฮ
|
I
|
ไอ
|
สระอี /สระ อิ / อี
|
J
|
เญ
|
ญ
|
K
|
เค
|
ก
|
L
|
แอล
|
ล
|
M
|
เอ็ม
|
ม
|
N
|
เอ็น
|
น
|
O
|
โอ
|
สระ โอ / โอ
|
P
|
พี
|
ป
|
Q
|
คิว
|
ก
|
R
|
อาร์
|
ร
|
S
|
เอส
|
ซ
|
T
|
ที
|
ต
|
U
|
ยู
|
สระ อู /สระ อุ /อู
|
V
|
วี
|
ว
|
W
|
ดับเบิลยู
|
ว
|
X
|
เอ็กซ์
|
ซ
|
Y
|
วาย
|
ย
|
Z
|
แซ็ด
|
ซ
|
2) การออกเสียงสระ
- ภาษามลายูมีสระทั้งหมด 5 เสียง คือ /a/ (อา), /e/ (เอ) , /i/ (อี), /o/
(โอ), /u/ (อู)
- เสียงสระ /a/ สามารถออกเสียงได้ 3 เสียง คือ [a] (อา), [E] (แอ) และ
[O] (โอ) เช่น ออกเสียงว่า [a] (อา) เช่น
Sama ซา-มา เหมือนกัน
Lama ลา-มา นาน
ออกเสียงว่า [E] (แอ) เช่น
Ramai รา-แม หรือ รา-มัย มาก, หลายคน
ออกเสียงว่า [O] (ออ) เช่น
Kacau คาเจา/คาจอ ยุ่งเหยิง, กวน
Hijau ฮีเจา/ฮีจอ สีเขียว
- เสียงสระ /i/สระตัวนี้สามารถออกเสียงได้ 2 เสียง คือ [i] (อี-เสียงยาว) กับ
[i] (เสียงสั้น) กล่าวคือออกเสียงว่า [i] (อี-เสียงยาว) เช่น
Ini อีนี่ สิ่งนี้/อันนี้
Kami กามี พวกเรา
ออกเสียงว่า [i] (อิ-เสียงสั้น) ตัวอย่างเช่น
Kain กาอิน เสื้อผ้า
Lain ลาอิน อื่น
- เสียงสระ /U/สระตัวนี้สามารถออกเสียงได้ 2 เสียง คือ [u] (อู-เสียงยาว)
กับ [U] (อุ-เสียงสั้น) กล่าวคือออกเสียงว่า [U] (อู-เสียงยาว) เช่น
Ragu- ragu รากู-รากู ลังเล, แคลงใจ
Tamu ตามู แขก
ออกเสียงว่า [U] (อุ-เสียงสั้น) ตัวอย่างเช่น
Daun ดาอุน ใบไม้
Turun ตูรุน ลง
- เสียงสระ /E/สระตัวนี้สามารถออกเสียงได้ 3 เสียง คือ [e] (แอ), [E] (เอ)
และ [e] (เอิม) กล่าวคือการออกเสียง [e] (แอ) เช่น
Enak แอนัก อร่อย
Sehat/Sihat แซฮัต แข็งแรง
การออกเสียง [E] (เอ) เช่น
Nenek เนเนะกฺ ปู่, ตา
Pendek เปนเด็ก เตี้ย
การออกเสียง (e) (เอิม) เช่น
Embun เอิมบุน น้ าค้าง
- เสียงสระ /O/สระตัวนี้สามารถออกเสียงได้ 2 เสียง คือ [O] (โอ) และ [o]
คือการออกเสียง [O] (โอ) เช่น
Bola โบลา ลูกบอล
Orang โอรัง คน
การออกเสียง [o] (ออ) เช่น
Ongkos อองกอส ค่าใช้จ่าย
Bohong บอฮอง โกหก
การอ่านภาษามลายู
1) คำหรือพยางค์ที่ไม่มีตัวสะกด อ่านออกเสียงยาว (ฑีฆะสระ) เช่น
Apa (อาปา) อะไร
Bini (บีนี) เมีย
Bila (บีลา) เมื่อ, เมื่อไร
Bela (เบลา) แก้แค้น
Toko (โตโก) ร้าน
Buku (บูกู) หนังสือ
2) คำหรือพยางค์ที่มีตัวสะกด ให้อ่านออกเสียงสั้น(รัสสะสระ) เช่น
KAMBING (กัมบิง) แพะ
KEMBANG (กึมบัง) หรือ (เกิมบัง) บาน
SOMBONG (ซมบง) หยิ่ง
KEMBUNG (กึมบุง) พอง, นูน
อักษร K สะกด ออกเสียงเบามาก จนเกือบจะไม่ ได้ยินเสียงK เช่น
DUDUK (ดูดุก) จะอ่านออกเสียงเป็น
BALIK (บาลิก) จะอ่านออกเสียงเป็น บาลิ พลิก, กลับ
BELOK (เบ-ลก) จะอ่านออกเสียงเป็น เบโละ เลี้ยว
สระ I ถ้ามีตัวสะกด มีค าจ านวนมากที่ชาวมาเลเซีย พูดออกมาเป็นเสียง เ-ะ หรือ เ-
KASIH (กาซิฮ) เป็น กาเซะฮ รัก, ให้
BALIK (บาลิก) เป็น บาเละ พลิก,กลับ
สระ U ถ้ามีตัวสะกด มีค าจ านวนมากที่ชาวมาเลเซีย พูดออกมาเป็นเสียง
โ-ะ หรือ โ- เช่นBATUK
(บาตุก) เป็น บาโตะ ไอ
BULUH (บูลุฮ) เป็น บู โละฮ ไม้ไผ่
ยกเว้นชาวอินโดนีเซีย ซึ่งอ่านหรือพูดออกมาตามตัวหนังสือมากที่สุด คือจะอ่าน ดูดุก บาลิก เบ-ลก
กาซิฮ บาตุก บูลุฮ ตามล าดับ
2.2.6 การเทียบเสียง
ฆ=เสียง g ในค าว่า go (เปอรฆี=pergi)
ย= เสียง j ในค าว่า jane (จาลัน= jalan)
ญ=เสียง y ในค าว่า young (อาญะฮ. =ayah)
ญ=เสียง น+ญ ควบกล้ า ny (ญาญี= nyanyi)
ค=เสียง ค+ฆ ควบกล้ ากัน kh (อาคิร. =akhir)
ช= เสียง ส+ช ควบกล้ ากัน sy (อาชิก=asyik)
ฮฺ=เสียง ah เช่น อะฮฺ บะฮฺ โบะฮฺ บุฮฺ (ah bah boh buh)
จุดข้างล่างตัวอักษรหมายความว่าให้ออกเสียง เช่น
บลายัรฺ = Belajar
บลาญัรฺ = Belayar
อาคิรฺ = Akhir
พยางค์
ดังกล่าวไว้ที่ต้นบทว่า พยางค์ในภาษามลายู สามารถ
ประกอบด้วยสระเพียงตัวเดียวได้ ซึ่งอาจท าให้ผู้เรียนเกิดปัญหาในการอ่าน พยางค์ว่าจะแบ่งตรงไหน ข้อสังเกต
1) พยางค์ที่ 1 ของค าสามารถประกอบด้วยสระตัวเดียว
หรือสระกับพยัญชนะท้ายได้
ตัวอย่าง enak, ada, ikan, angkat, intan
2) พยางค์ที่ 2 หรือพยางค์ถัดมาจะประกอบด้วยสระตัวเดียว
หรือสระกับพยัญชนะท้ายก็ต่อเมื่อพยางค์ข้างหน้าต้องเป็นพยางค์เปิดเท่านั้น
ตัวอย่าง sesuai, saat, biasa, laut
จากตัวอย่างค าว่า biasa อ่านให้ถูกต้อง ต้องอ่าน บีอาซา ไม่ใช่ บีอัสอา
3) ในกรณีที่มีวิภัตติปัจจัย (affix) ตามหลักต้องอ่านแยก
เสียง เช่น ber + adaอ่านว่า เบอรอาดา ไม่ใช่ เบอราดา แต่โดยทั่วๆ ไป เจ้าของภาษามักจะอ่านแบบกลมกลืนเสียง
ตัวอย่าง
tanam + an อ่านว่า ตานามัน
makan + an อ่านว่า มากานัน
ber + angkat อ่านว่า เบอรังกัต
ไวยากรณ์
เรื่องหลักภาษานั้น ส าหรับภาษาอินโดนีเซียมีลักษณะ
คล้ายคลึงกับภาษาไทย นั่นก็ คือการเรียงประโยคของภาษามลายูจะคล้ายกับการเรียงหรือผูกประโยคของภาษาไทย ตัวอย่าง
โครงสร้างประโยคดังต่อไปนี้
POLA 1 (S) + (P) + (k)
ประธาน กิริยา ส่วนขยาย
SUBEK + PREDIKAT + KETERANGAN
(Nomina/Pronomina) (ada) TEMPAT
Contoh: Mobil kuning ada di garasi
Dia ada di rumah
Bapak ada di pasar
Pohon manga ada di halaman
Fandi ada di kamar mandi
(Teguh Basuki dan tim penulis 1999, 53-54)
คำทักทาย แนะนำตัวเอง
การทักทายในภาษามลายูมักเริ่มต้นด้วยค าว่า “Selamat” และต่อด้วยเวลาคาดว่า การทักทายลักษณะนี้เป็นการยึดตามแบบของชาวตะวันตก ซึ่งมักใช้ทักทายชาวต่างประเทศหรือเป็น แบบทางการในขณะที่คนรุ่นเก่าหรือคนรุ่นใหม่ที่นับถือศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด มักทักทายกันเองด้วยคำว่า“Asslam Alaikum”
1) Ungkapan Salam (การกล่าวคาทักทาย)
Ungkapan salam dalam bahasa Malaysia sesuai dengan waktunya.
การกล่าวค าทักทายในภาษามาเลเซียนั้นขึ้นอยู่กับเวลา คือ
00.00-10.00 Selamat Pagi (เซอลามัต ปากี สวัสดีตอนเช้า)
10.00-14.00 Selamat Siang (เซอลามัต เซียง สวัสดีตอนเที่ยง)
14.00-18.00 Selamat Petang (เซอลามัต เปตัง สวัสดีตอนบ่าย/ตอนเย็น)
18.00-24.00 Selamat malam (เซอลามัต มาลัม สวัสดีตอนค่ า)
นอกจากนี้ค าว่า “Selamat” ยังใช้เพื่อแสดงความยินดีและค าอวยพรต่าง ๆ
Selamat tidur “ราตรีสวัสดิ์”
Selamat tinggal “ลาก่อน” (อยู่อย่างมีสวัสดิภาพ)
Selamat jalan “ลาก่อน” (เดินทางโดยสวัสดิภาพ)
Selamat “ขอแสดงความยินดี”
Selamat datang “ยินดีต้อนรับ”
Selamat berkenalan “ยินดีที่รู้จัก”
Selamat ulang tahun “สุขสันต์วันเกิด”
Selamat bekerja “ขอให้สนุกกับการท างาน, ท างานโดยราบรื่น”
2) การทักทายโดยทั่วๆ ไป หลังจากสวัสดีจะถามเป็นธรรม
เนียมว่า Apa khabar? หมายถึง สบายดี หรือ? การตอบรับ khabar baik. และก่อนจากกันจะกล่าวว่า Sampai bertemulagi. หรือ Sampai bejumpa lagi. หมายถึงพบกันใหม่ โดยปกติแล้วคนมาเลเซียมักทักทายโดยถามว่า mau ke mana? หมายถึง จะไปไหน การตอบรับ mau ke sana. จะไปที่โน่น
3) คำทักทายเบื้องต้น
Apa kabar? หรือ Apa khabar? = สบายดีไหม
Khabar baik = สบายดี
Ya = ใช่ค่ะ/ครับ
Tuan nama apa? = คุณชื่ออะไร
Saya nama…. = ฉัน/ผมชื่อ......
Tuan umur berapa? = คุณอายุเท่าไร?
Saya umur = ฉัน/ผม อายุ....
Tuan ada kerja apa? = คุณมีธุระอะไร
Saya hendak jumpa dengan = ฉัน/ผมต้องการพบกับ
Tuan datang dari mana? = คุณมาจากที่ไหน
Saya datang dari = ฉัน/ผมมาจาก
Tuan hendak pergi kemana? = คุณจะไปไหน
Saya hendak pergi ke = ฉัน/ผมจะไป
Terima kasih = ขอบคุณ
Tidak mengapa = ไม่เป็นไร
Maaf = ขอโทษ
4) ตัวเลข, วัน, เดือน (Angka, Hari, Bulan)
1 satu 2 dua 3 tiga 4 empat 5 lima 6 enam 7 tujuh 8 lapan 9 sembilan 10 sepuluh
5) วัน (Hari)
วันอาทิตย์ Ahad อาฮัด วันจันทร์ Isnain อิสฺไนนฺ
วันอังคาร Selasa เซอ-ลา-ซา วันพุธ Rabu รา-บู
วันพฤหัสบดีKhamisกา-มิส วันศุกร์ Jumaat จุม-อัต
วันเสาร์ Sabtu ซัป-ตู